ปืนโชว์สปิริต! แรมซี่ย์ซัดดับผี 1-0 ตาม 6 แต้ม

[Stayalive]

ทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ยังขอรักษาความหวังเล็กๆในการลุ้นแชมป์ต่อไปเมื่อเอาชนะ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 1-0 จากประตูชัยของ อารอน แรมซี่ย์


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (1 พ.ค.54)

อาร์เซนอล 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ประตู :
1-0 แรมซี่ย์ 56

“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ต้องลงเล่นเกมสำคัญที่สุดของฤดูกาลเมื่อต้องรับมือกับจ่าฝูง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นำโด่ง 9 คะแนนโดยเหลือแค่ 4 นัดเท่านั้น ซึ่งแม้โอกาสจะมีลุ้นน้อยแต่ก็ยังต้องการชัยชนะอยู่ดี ส่วนทีมเยือนถ้าชนะนัดนี้การันตีแชมป์แล้วครึ่งใบเพราะต้องการอีก 7 แต้มก็เป็นแชมป์แน่นอน

สำหรับเกมนี้ แฟนปืนเจอเรื่องช็อกเมื่อ เซสก์ ฟาเบรกาส กัปตันทีมมีอาการบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อมซึ่งถือเป็นข่าวร้ายที่สุด โดย อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องปรับทัพส่ง อารอน แรมซี่ย์ ลงมาแทนที่ ขณะที่ทีมเยือนยืนพื้นคู่หอกฟอร์มร้อน เวย์น รูนี่ย์ และ ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ เหมือนเดิม

เริ่มต้นเกมมาทางด้าน อาร์เซนอล มีจังหวะได้ยิงทักทายก่อนจาก แจ็ค วิลเชียร์ ที่ซัดหลุดกรอบออกไป ก่อนที่เกมในช่วงครึ่งแรกแทบจะเป็นของฝ่ายเจ้าบ้านที่ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ ได้หมดจด

โดยนอกเหนือจากจังหวะง้างเท้าของวิลเชียร์แล้วก็ยังมี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ได้ยิงช่วงต้นเกมด้วย แต่ที่ได้ลุ้นที่สุดเป็นจังหวะที่ กาแอล กลิชี่ กระชากไปทางซ้ายก่อนจะเปิดบอลเข้ามาให้ ธีโอ วัลค็อตต์ ได้ยิงข้ามคานออกไป เป็นจังหวะใกล้เคียงที่สุดของอาร์เซนอล ในครึ่งแรก

แต่จังหวะที่เป็นปัญหาที่สุดคือลูกที่ วัลค็อตต์ ได้เปิดบอลไปแล้วปรากฏว่าติดตัวของ เนมันย่า วิดิช ซึ่งจากภาพช้าแสดงให้เห็นชัดว่าเป็นการทำแฮนด์บอลในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินไม่ ทันได้่เป่าให้เป็นจุดโทษแต่อย่างใด

แมนฯ ยูไนเต็ด รับอยู่นานก่อนจะเริ่มดีขึ้นเมื่อพ้นกลางครึ่งแรกไป แต่ก็ไม่ได้มีจังหวะที่จะสามารถสร้างเกมรุกกดดันให้กับฝ่ายเจ้าบ้านได้เลย ทำให้จบครึ่งแรกแม้สกอร์จะยังนิ่งที่ 0-0 แต่โดยรูปเกมแล้วจ่าฝูงทำได้น่าผิดหวัง

ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมเยือนจึงมีการปรับรูปเกมโดยเน้นมากขึ้นและแค่ไม่นานหลังกลับมาเล่นใหม่ เวย์น รูนี่ย์ ก็สบโอกาสได้ยิงจการะยะ 22 หลาแต่ว่า วอยเซียค เชสนี่ ประตูเจ้าบ้านก็เซฟเอาไว้ได้

แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มที่จะโถมบุกหนักซึ่งเป็นช่วงแรกที่เจ้าบ้านเพิ่งจะโดนกดดันถี่ๆ แต่ว่ากลับเป็นทางกันเนอร์ส ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 56 จากการลากขึ้นมาริมเส้นของ ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนจะหักหลบเปิดเข้ามาถึง แรมซี่ย์ ที่เติมเข้ามาในเขตโทษแปลอดขาคาร์ริค ผ่านมือฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไปอย่างสวยงามให้กันเนอร์ส ออกนำไปก่อน 1-0

เมื่อเสียประตูไปทีมเยือนก็พยายามจะเอาคืน โดยมาได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นโหม่งของเนมันย่า วิดิช หรือการได้ซัดฟรีคิกระยะอันตรายของ รูนี่ย์ แต่ก็ปั่นไปเข้าซองของ เชสนี่ อีก

จังหวะเปิดเกมที่สวยที่สุดของแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นการเข้าทำโดย รูนี่ย์ ปล่อยบอลให้ นานี่ ได้เข้าไปยิงแต่ว่าไม่ผ่านด่านของ เชสนี่ ที่ช่วยชีวิตปืนเอาไว้ได้อีก ก่อนที่เจ้าบ้านจะหันลงไปแพ็กเกมรับต้านทานได้อย่างดี

แมนฯ ยูไนเต็ด บุกในช่วงท้ายแต่ก็ไม่สำเร็จ โดยเกือบจะเรียกจุดโทษได้จากจังหวะที่ กลิิชี่ ไปดักใส่ ไมเคิล โอเว่น ตัวสำรองแต่ว่าผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้จุดโทษ ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยชัยชนะของ อาร์เซนอล ที่ขยับตามมาเหลือ 6 แต้มเท่านั้น โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังนำเชลซี อยู่ แต่เหลือแค่ 3 คะแนนโดยจะต้องเจอกับแชมป์เก่าในเกมหน้าด้วย